RSS

ตามไปเที่ยว "ฮ่องกง" กันค่ะ^0^

แป้งมีโอกาสได้ไปเที่ยวที่ฮ่องกงมาค่ะ ไปพักที่ Disneyland Hotel Hong Kong คือได้ไปเปรียบเทียบราคาก่อนที่จะเดินทางค่ะ ทำให้ได้ที่พักที่ราคาถูกและตรงตามความต้องการของแป้งเอง
ที่แป้งจองครั้งนี้แป้งจองผ่าน www.zizzee.com  เอเจนซี่นี้ให้ราคาถูกที่สุดเลยค่ะ Aistravel เค้ามีโปรโมชั่นแถมตั๋วเข้าชม Disney ให้ด้วยนะคะ ซึ่งโรงแรมที่เข้าไปพักเป็นโรงแรมที่ได้ชื่อว่า
เป็นหนึ่งในโรงแรมที่อยู่ในที่ตั้งที่ดีที่สุดของเกาะลันเตา ( เกาะลันเตาเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในฮ่องกงมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 146 ตารางกิโลเมตร ) ซึ่งมีระบบขนส่งให้เลือกอย่างมากมาย นอกจากนี้คุณสามารถเดินเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญต่างๆที่อยู่ใกล้กับโรงแรม และระยะทางระหว่างโรงแรมกับสนามบินที่ห่างกันไม่มากนัก ทำให้แขกจากทางโรงแรมไม่จำเป็นต้องเสียเวลามากกับการเดินทางจากสนามบินมายังโรงแรมเลยค่ะ
 
 
 
 
 
 
 
 
นี่เป็นภาพด้านหน้าของทางโรงแรมค่ะ วันนี้แป้งไม่ขอเป็นนางแบบเองละกันนะคะ เอารูปเพื่อนมาฝาก เพราะแป้งเป็นตากล้องค่ะวันนี้ ^^
 
 
 
 
 
คือจะบอกว่า โรงแรมนี้หรูมากๆเลยค่ะ แบบว่าราคาขนาดนี้ไม่น่าเชื่อว่าจะได้ทีพักหรูหรามากมายขนาดนี้ เอาภาพบรรยากาศภายในโรงแรมมาฝากกันด้วยนะคะ ไปดูกันเลยคะ
 
 
 
 
 
เอาล่ะค่ะมาถึงเวลาเที่ยวกันบ้าง แท่น แท๊นนน....ดิสนีย์แลนด์ ค่าา มาดูกันเลย แต่ว่าเอารูปมาฝากน้อยหน่อยนะคะมัวแต่ไปตื่นตาตื่นใจอยู่ 5555
 
 
ส่วนอันนี้เป็นภาพภายนอกโรงแรมในเวลากลางคืนค่ะ มีไฟประดับอย่างสวยงาม
 
 
เดี๋ยวพรุ่งนี้แป้งจะมาอัพเดท เที่ยว "ฮ่องกง" ต่อนะคะ เพื่อนๆอย่าลืมมาติดตามด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ ^_^


edit @ 27 Jul 2011 12:10:51 by NooPang

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

ตลาดน้ำอโยธยาค่ะ

          ตลาดน้ำอโยธยาแห่งนี้เป็นตลาดน้ำแห่งใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่าง
มากจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่ง
เมื่อมาถึงที่ตลาดน้ำอโยธยาแห่งนี้
ก็รู้สึกเหมือนได้ไปอยู่ในละครช่อง
7 ประเภทละครย้อนยุค หรือละครพื้นบ้านต่างๆ


 


เมื่อเดินเข้ามา ก็มีเรือจอดอยู่มากมาย มีพ่อค้าแม่ค้าพายเรือขายของกัน ป้ายตลาด
น้ำอโยธยาก็จัดทำขึ้นบนกำแพงอิฐ คล้ายกับกำแพงเมือง สถานที่ขายอาหารที่อยู่
บนฝั่งจะมีลักษณะเป็นเรือนไม้ทรงไทย ส่วนร้านที่ขายอาหารกันบนเรือ แต่ละร้าน
ก็จะมีการตกแต่งเรือของตนเองให้มีความสวยงาม แตกต่างกันออกไป เมื่อมองจาก
บนสะพานหรือมุมสูงจะเห็นตลาดน้ำแห่งนี้ เป็นเหมือนชุมชนในสมัยกรุงศรีอยุธยา
โบราณ ในสระน้ำมีดอกบัวสวยงาม มีบ้านเรือนทรงไทย  มีแม่ค้าพ่อค้าพายเรือขาย
ของ ซึ่งเห็นแล้วเป็นภาพที่น่าประทับใจมาก เนื้องจากปัจจุบันหาดูได้ยากแล้วการ

พายเรือขายของแบบนี้






หากใครแวะมาเที่ยวชมตลาดน้ำอโยธยาแล้วไม่อิ่มหนำสำราญจนแน่นท้องก็ให้มัน
รู้ไป  เพราะว่าอาหารการกินเยอะมาก
!!! ที่สำคัญราคาไม่สูงมากด้วย รสชาดก็
ใช้ได้เลยค่ะ ส่วนคนไหนที่เดินแล้วรู้สึกเมื่อยเนื้อตัวก็สามารถแวะมานวด มาสปา
กันได้ และหากใครต้องการของฝากที่เป็นเอกลักษณ์ของตลาดน้ำแห่งนี้ ก็ไม่ต้องห่วง
มีเยอะแยะมากมายจริงๆค่ะ ทั้งพวงกุญแจ เสื้อสกรีน และอะไรต่างๆอีกมากมายที่มี
คำว่าตลาดน้ำอโยธยาอยู่ สามารถให้เป็นของฝากได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวค่ะ





       ทีนี้เพื่อนๆคนไหนที่ยังไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหนดี คงมีสถานที่ในใจกันขึ้นบ้างแล้วใช่
มั้ยละคะ ยังไงเพื่อนๆที่จะเดินทางไปเที่ยวของให้เดินทางโดยสวัสดิภาพนะคะ ขับรถก็
อย่าประมาท ถ้าทางไกลมาก ก็แนะนำให้ไปหาที่พักนอนพักซักหน่อยนะคะ เพื่อความ
ปลอดภัยของทุกคน และเพื่อนความสะดวกสบายด้วยค่ะ ถ้าเพื่อนๆที่จะหาที่พัก
แล้วยังไม่รุ้จะไปพักทีไหน ลองเข้าไปเปรียบเทียบราคาที่พักแต่ละที่กันก่อนะคะที่
www.zizzee.com จะได้ไปเที่ยวได้แบบประหยัดๆ เหลือเงินไปเที่ยวได้อีกหลายที่นะคะ
 
^_^

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้ค่ะ^_^


องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) เป็นแหล่งศึกษาทางวิทยาศาสตร์ที่เยาวชน
ไม่ควรพลาด ภายในมีการจัดแสดงนิทรรศการต่างๆ และกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ ที่เป็นการ
สื่อสารความรู้ให้กับผู้เข้าชมอีกมากมาย เพื่อให้ผู้ที่สนใจและศึกษาเข้าใจในสาระทางวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยีได้โดยง่าย และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย


สวนนกชัยนาท เป็นสวนนกขนาดใหญ่ที่มีกรงนกใหญ่ที่สุดในเอเชีย และมีการสร้างขึ้น
ได้ใกล้เคียงสภาพธรรมชาติเป็นอย่างมาก ประกอบไปด้วยนกหลายสายพันธุ์ให้นักท่องเที่ยว
ได้ศึกษาและเที่ยวชม นอกจากจะเพลิดเพลินใจไปกับนกนานาชนิดแล้ว สวนนกชัยนาทยังมี
การจัดแสดงอีกมากมาย เช่น ศูนย์วิทยาศาสตร์ท้องฟ้าจำลองฯ
, พิพิธภัณฑ์ไข่นก , พิพิธภัณฑ์
ปลาน้ำจืด เป็นต้น



สะพานข้ามแม่น้ำแคว เป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของโลก
เป็นส่วนหนึ่งของทางรถไฟสายมรณะที่สร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่
2 โดยกองทัพ
ญี่ปุ่นได้เกณฑ์ทั้งเชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร และกรรมกรเรือนหมื่น เพื่อก่อสร้างทางรถไฟ
สายยุทธศาสตร์ไปสู่ประเทศพม่า ด้วยระยะทางยาว กว่า
415 กิโลเมตร ฝ่าป่าดงดิบที่
รกชัฏ ทะลุผ่านภูเขาหิน เลียบเลาะริมหน้าผาสูงชัน
การสร้างสะพานและทางรถไฟสายนี้
จึงเต็มไปด้วยความยากลำบาก ความทารุณของสงครามและโรคภัย ตลอดจนการขาดแคลน
อาหาร ทำให้เชลยศึกหลายหมื่นคนต้องเสียชีวิตลง
ซึ่งเส้นทางช่วงหนึ่งต้องสร้างข้ามแม่น้ำ
แควใหญ่ที่ ตำบลท่ามะขาม จึงเรียกว่า
"สะพานข้ามแม่น้ำแคว" ปัจจุบันเส้นทางรถไฟสายนี้
ไปสิ้นสุดที่สถานีน้ำตก อำเภอไทรโยค ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้เปิดบริการเดินรถไฟ
บนเส้นทางสายนี้เป็นประจำทุกวัน



ทีนี้เพื่อนๆคนไหนที่ยังไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหนดี คงมีสถานที่ที่อยากไปกันหลายที่เลยใช่มั้ยละคะ
ยังไงเพื่อนๆที่จะเดินทางไปเที่ยวของให้เดินทางโดยสวัสดิภาพนะคะ ขับรถก็อย่าประมาท
ถ้าทางไกลมาก ก็แนะนำให้ไปหาที่พักนอนพักซักหน่อยนะคะ เพื่อความปลอดภัยของเพื่อนๆทุกคน
และเพื่อนความสะดวกสบายด้วยค่ะ ถ้าเพื่อนๆที่จะหาที่พัก แล้วยังไม่รุ้จะไปพักทีไหน
ลองเข้าไปเปรียบเทียบราคาที่พักแต่ละที่กันก่อนะคะที่ 
www.zizzee.com จะได้ไปเที่ยว
ได้แบบประหยัดๆ เหลือเงินไปเที่ยวได้อีกหลายที่นะคะ
^_^

edit @ 11 Jul 2011 10:24:19 by NooPang

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

“สามพันโบก” ดินแดนมหัศจรรย์ริมฝั่งโขง

หลังจากเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในภาพยนตร์โฆษณาชวนเที่ยวเมืองไทยของ ททท.พี่เบิร์ดนำแสดง ชื่อของ “สามพันโบก”ก็โด่งดังในพริบตาพร้อมๆ กับการเปิดโลกอันชวนตื่นตะลึงของดินแดนแห่งนี้สู่สาธารณชน นั่นทำให้ “ตะลอนเที่ยว”อดหัวใจเต้นแรงตุ๊มๆ ต่อมๆ ไม่ได้เมื่อรู้ว่าจะได้มีโอกาสไปเยือนสามพันโบก ดินแดนที่ได้รับฉายาว่า “แกรนด์แคนยอนแห่งสยาม”




ถ้าคิดจะมาเยือนสามพันโบกและชมความงามให้ครบรสแนะนำให้เลือกวิธีลงเรือที่ หาดสลึง เพื่อชมทัศนียภาพสองฝั่งน้ำที่กั้นกลางระหว่างประเทศไทยกับประเทศลาว ก่อนจะเทียบท่าจุดแรกที่ หาดหินสี หรือทุ่งหินเหลื่อม เป็นกลุ่มหินสีที่มีลักษณะแปลกตา มีการจินตนาการไปกันต่างๆนานาว่าหินแต่ละก้อนเหมือนสิ่งต่างๆอย่างเช่น จระเข้ แจกัน หรือสัตว์นานาชนิด




หินในลานหินสีจะมีผิวเรียบหลากหลายสี มีขนาดตั้งแต่ก้อนเล็กเท่ากำปั้น ไปจนถึงก้อนใหญ่ที่สุดอยู่บนพื้นที่เวิ้งว้าง รู้สึกได้ว่า ดินแดนแห่งนี้เป็นความงดงามที่ธรรมชาติสรรค์สร้างได้อย่างลงตัว และน่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมากถึงจะร้อนไปบ้างแต่ก็ไม่ใช่อุปสรรค

เสร็จจากลานหินสีเรือล่องทวนน้ำมาเรื่อยๆ โดยตลอดเส้นทางจะเห็นวิธีการดักปลาของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมฝั่งโขงซึ่งเป็นวิถีท้องถิ่นไม่สามารถหาชมได้จากที่ไหน ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงจุดหมายที่สอง หาดหงส์ เนินทรายแม่น้ำโขงขนาดมหึมามีลักษณะคล้ายกับทะเลทรายที่กว้างใหญ่ โดยต้องรอช่วงที่พระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้า จะเป็นเวลาที่ชมหาดหงส์ได้สวยงามที่สุด เพราะแสงของดวงอาทิตย์จะกระทบกับทรายสีขาวเกิดเป็นประกายระยิบระยับงดงามมากๆเลย


สามพันโบก ดินแดนธรรมชาติแปลกตาที่เดิมชาวบ้านต่างเรียกกันว่า “ปู่จกปู” ซึ่งคนที่อยู่แถวนั้นเล่าให้ฟังว่าชื่อนี้มาจากตำนานเล่าขานที่ว่านานมาแล้ว ปู่กับหลานคู่หนึ่งได้ล่องเรือหาปลาในลำน้ำโขง และได้มาแวะพักในบริเวณนี้ แล้วฝ่ายหลานเกิดอาการหิวขึ้นมา ปู่จึงเอามือล้วงเข้าไปในหลุม จับได้ปูมาทำเป็นอาหารให้หลานได้กินอิ่มหนำสำราญ




แต่ชื่อของ“ปู่จกปู” ฟังดูไม่ค่อยติดหูเท่าไหร่ ทำให้กลุ่มผู้บุกเบิกการท่องเที่ยวของที่นี่ ได้เรียกสถานที่แห่งนี้ใหม่เป็น “สามพันโบก” ซึ่งมีที่มาจากแอ่ง หลุม บ่อ ที่มีอยู่มากมายนับไม่ถ้วนหลายพันแอ่ง เพราะคำว่า“โบก” ในภาษาลาวหมายถึง หลุม แอ่ง บ่อ นอกจากนี้ยังเป็นการตั้งชื่อให้สอดรับกับชื่อ “มหานทีสี่พันดอน” ที่คนลาวใช้เรียกขานแม่น้ำโขงที่มีเกาะแก่งมากมายในเมืองจำปาสัก




สำหรับการมาเยือนสามพันโลกครั้งแรกนี้สร้างความประทับใจให้เราอย่างคาดไม่ถึง แม้ความงามของแก่งสามพันโบกจะยังไม่ใช่ช่วงที่ดีที่สุดตามที่คนแถวนั้นบอก เพราะต้องรอประมาณเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน ถึงน้ำจะลดแล้วเห็นความสวยงามอย่างเต็มที่ แต่เท่าที่เราได้สัมผัสและเห็นกับตาตัวเอง รู้สึกได้เลยว่าไม่ว่าจะเป็นฤดูไหนสถานที่แห่งนี้ถือเป็นความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างมาได้อย่างยิ่งใหญ่จริงๆ ขอเพียงแค่มนุษย์อย่าจงใจเข้ามาทำลาย ดินแดนมหัศจรรย์แห่งนี้น่าจะอยู่เคียงคู่แม่น้ำโขงตลอดไปนะคะ




ทีนี้เพื่อนๆคนไหนที่ยังไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหนดี คงมีสถานที่ที่อยากไปกันหลายที่เลยใช่มั้ยละคะ ยังไงเพื่อนๆที่จะเดินทางไปเที่ยวของให้เดินทางโดยสวัสดิภาพนะคะ ขับรถก็อย่าประมาท ถ้าทางไกลมาก ก็แนะนำให้ไปหาที่พักนอนพักซักหน่อยนะคะ เพื่อความปลอดภัยของเพื่อนๆทุกคน และเพื่อนความสะดวกสบายด้วยค่ะ ถ้าเพื่อนๆที่จะหาที่พัก แล้วยังไม่รุ้จะไปพักทีไหน ลองเข้าไปเปรียบเทียบราคาที่พักแต่ละที่กันก่อนะคะที่ www.zizzee.com จะได้ไปเที่ยวได้แบบประหยัดๆ เหลือเงินไปเที่ยวได้อีกหลายที่นะคะ ^_^

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

เที่ยวตลาดบ้านใหม่ 100 ปี

หลังจากไปทำบุญที่วัดหลวงพ่อโสธรแล้ว  เราจะพาเพื่อนๆไปหาของอร่อยๆๆกินกันต่อ  ที่  ตลาดบ้านใหม่   จ.ฉะเชิงเทราแห่งนี้ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดหลวงพ่อโสธรค่ะ  ตลาดบ้านใหม่ ตั้งอยู่ที่ถนนศุภกิจ (ทางไปอำเภอบางน้ำเปรี้ยว) เป็นตลาดเก่าอายุกว่า 100 ปี เป็นชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีน เมื่ออดีตสถานที่แห่งนี้มีความคับคั่งด้วยผู้คนที่มาประกอบอาชีพค้าขาย รวมทั้งเป็นจุดแลกเปลี่ยนสินค้าสำคัญของจังหวัดฉะเชิงเทรา




ปัจจุบันที่นี่เป็นแหล่งการค้าขายของที่ระลึก ของเล่นโบราณ ไอติมโบราณ และของต่างๆ มากมาย เป็นย่านชุมชนค้าขายของเก่า โดยเฉพาะอาหาร เช่น อาหารจีน อาหารไทย และ อาหารประจำจังหวัด ร้านขายก๋วยเตี๋ยวแบบโบราณ ร้านกาแฟโบราณ เป็นต้น




บรรยากาศของตลาด  คล้ายๆกับเป็นบ้านห้องแถวสมัยโบราณ  ได้เห็นขนม  ของเล่นสมัยเด็กๆ    และที่สำคัญเลยมีอาหารให้เลือกหลากหลายชนิด  ทั้งอาหารคาว  ขนมหวาน  อาหารที่กินเล่นประมาณว่าลองท้องแต่อิ่มจริงๆ  รสชาติอร่อย  และราคาก็ไม่แพง  มีทั้งแบบซื้อแล้วเดินกินได้เลย  หรือว่าจะนั่งกินที่ร้านเพื่อเก็บบรรยากาศของตลาดโบราณแห่งนี้   เพื่อนๆที่จะไปเที่ยวฉะเชิงเทรา หรือใกล้เคียงอย่าบืมแวะไปเดินดูกันนะคะ ของราคาไม่แพงเลย ถ้าใครเดินทางไกลๆ หาที่พัก ก็เปรียบเทียบราคากันได้ที่ www.zizzee.com

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS